tag:blogger.com,1999:blog-6608135384556459722024-03-20T14:08:51.100+07:00.Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.comBlogger18125tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-31497563592001509742009-05-10T19:12:00.001+07:002009-05-10T19:14:06.057+07:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiK9SNEOMaJZjrg1LYJcgwfrXs4R7ynd4I6Fv6hUDMJDTtq46dh27rSNAJBd4Fabod1HcaFAbzFHo3YLP5-d7-_eM4QsKhVgCEAcSJSJkp3G-fFP6EFMg_LXjd8rjOEuO_lblZraYD1Nxj6/s1600-h/28368rcvys2w760.gif"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5334167410393344402" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiK9SNEOMaJZjrg1LYJcgwfrXs4R7ynd4I6Fv6hUDMJDTtq46dh27rSNAJBd4Fabod1HcaFAbzFHo3YLP5-d7-_eM4QsKhVgCEAcSJSJkp3G-fFP6EFMg_LXjd8rjOEuO_lblZraYD1Nxj6/s320/28368rcvys2w760.gif" border="0" /></a><br /><div></div>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-70053429425656162392009-02-17T11:39:00.000+07:002009-02-17T11:40:56.061+07:00แตกต่าง แต่ไม่แตกแยก<span style="color:#ff6666;">คนเรามีความคิดและความเชื่อเป็นของตนเอง แต่ละคนจึงมีความคิดต่างกันไป เมื่อคนเราเต้องมารวมกลุ่มกันในรูแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น เป็นครอบครัว องค์กร</span> <span style="color:#ffff00;">สังคม ความขัดแย้งที่เกิดจากความเชื่อนั้นจึงเกิดขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปรกติ เพราะธรรมชาติของคนเรามีความเชื่อถือไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เหมือนดั่งสายรุ้งที่มีหลากสี</span> <span style="color:#ff99ff;">แต่สายรุ้งนั้นก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ด้วยเหตุว่าแต่ละสีไม่ก้าวก่ายกัน เพียงแค่แสดงคุณสมบัติของแต่ละสีออกมาเท่านั้น สายรุ้งที่หลากสีนั้นอันที่จริงเกิดมา</span><span style="color:#33ff33;">จากความเป็นหนึ่งเดียวคือความไม่มีสี ดังนั้นความแตกต่างทางความคิด ความเชื่อเป็นการแสดงคุณสมบัติของแต่ละคน แต่สามารถรวมกันอยู่ภายใต้ความเป็นหนึ่ง</span><span style="color:#cc33cc;">เดียวโดยไม่แตกแยก นี่คือชีวิตที่สวยงาม เหมือนดั่งสายรุ้งที่สวยงาม เพราะความหลากสีของมันนั่นเอง คนเราจึงควรเป็นดั่งสายรุ้งตรงที่ว่าแตกต่างแต่ไม่แตกแยก</span>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-44001080032489281032009-02-15T03:30:00.002+07:002009-02-15T03:39:31.636+07:00ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษาความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา<br /><br /><span style="color:#ffff66;">คำว่า เทคโนโลยี เป็นคำที่ใช้ทับศัพท์คำว่า Technology ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นผลจากการศึกษา ค้นพบทางด้านวิทยาศาสตร์ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ขึ้น เทคโนโลยีทางการศึกษาจึง หมายถึง การนำเทคโนโลยีบางอย่างมาประยุกต์ใช้กับการศึกษา เพื่อสร้างเสริมกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดง่ายและรวดเร็วขึ้น<br /><br />คำว่า นวัตกรรม และ เทคโนโลยี จึงมีส่วนเกี่ยวข้องกัน แม้ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์และสิ่งประดิษฐ์มาประยุกต์ โดยมีกระบวนการกระทำ หรือ การจัดการทำให้เกิดนวัตกรรมขึ้นมาก็ตาม แต่คนส่วนใหญ่ มักจะใช้คำว่า เทคโนโลยี แทน โดยเฉพาะในปัจจุบันได้มีการประยุกต์วิธีการ โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ( Information and Communication Technology ) ซึ่งประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ และการสื่อสารทางไกลเป็นองค์ประกอบหลักเข้ามาใช้ในการศึกษา จึงมักเรียกว่า การใช้เทคโนโลยี และการสื่อสารการศึกษา หรือที่เรียกย่อว่า การใช้ ICT ทางการศึกษา แทนที่จะใช้คำว่า “ นวัตกรรมทางการศึกษา ” และเพื่อให้สอดคล้องกับความนิยมในการใช้คำเช่นนี้ ในบทเรียนนี้จึงใช้คำว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา แทน โดยให้หมายถึง นวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยี และ การสื่อสารเป็นองค์ประกอบหลักที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ทางการศึกษา ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในการศึกษาปัจจุบัน<br />ความหมายของระบบสารสนเทศ<br /><br />ระบบที่จะนำมาใช้ในการบริหารงานในที่นี้ ได้แก่ ระบบสารสนเทศ ( Information System ) ซึ่ง อนันต์ เกิดดำ ( 2548 ) ได้ให้ความหมายไว้ดังนี้<br /><br />ระบบสารสนเทศ คือ เซ็ตขององค์ประกอบที่สัมพันธ์กันซึ่งรวบรวม ประมวล จัดเก็บ และ เผยแพร่สารสนเทศเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ และการควบคุมในองค์กร ( ดูภาพประกอบที่ 8.1 ประกอบ )<br /><br /></span><p><span style="color:#ffff66;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5302754083889916786" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 200px; CURSOR: hand; HEIGHT: 107px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiRGm5mejPHKBhLZM704nMqlTbdSSCD85D6VJiqGGPkmO3EGHySrY1kandrX-FrZNm1wx0wfW7UmcnY-FC7Y43yXLoRS1Iz5tlGaqYtcilBTOv09jfu_MoAiJytxmXSz5judo_pbKnILl_0/s320/image001.png" border="0" /></span></p><p><span style="color:#ffff66;"></span></p><p align="center"><span style="color:#ffff66;">ภาพที่ 8.1 แสดงโครงสร้างของระบบสารสนเทศ</span></p><p align="left"><br /><span style="color:#ffff66;">จากภาพที่ 8.1 จะเห็นได้ว่า โครงสร้างหลักของสารสนเทศ ประกอบด้วย ข้อมูลนำเข้า การประมวลผล สารสนเทศ โดยมีข้อมูล ย้อนกลับเป็นตัวควบคุม<br />1. ข้อมูลนำเข้า ( Input ) คือ ข้อมูลที่จำเป็น เพื่อนำเข้าสู่ระบบเพื่อจะทำให้เกิดการประมวลผลขึ้น ข้อมูลที่จำเป็นจะมาจากสภาพแวดล้อมของระบบ ส่วนจะเป็นอะไรนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละระบบ เช่น ถ้าเป็นระบบบริหารในสถาบันการศึกษา ข้อมูลนำเข้าอาจประกอบด้วย อาจารย์ นักเรียน อาคารเรียน รายวิชาต่างๆ<br />2. การประมวลผล ( Processing ) คือ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบข้อมูลให้อยู่ในรูปที่มีความหมาย ซึ่งอาจจะได้แก่ กาคำนวณ การสรุป หรือ การจัดหมวดหมู่ของข้อมูล การประมวลผล ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อย ดังนี้<br />2.1 บุคลากร หมายถึง บุคคลที่ทำงานในองค์กรในฝ่ายสารสนเทศ<br />2.2 กระบวนการ หมายถึง ขั้นตอนการทำงานซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อให้การทำงานได้ผลตามที่ต้องการ<br />2.3 ฮาร์ดแวร์ หมายถึง เครื่องมือทั้งหมดที่ใช้ในระบบสารสนเทศ<br />2.4 ซอฟต์แวร์ หมายถึง ซอฟต์แวร์ระบบ และ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่ใช้ในระบบทั้งหมด<br />2.5 แฟ้มข้อมูล หมายถึง ข้อมูลที่เก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการประมวลผลคราวต่อไป ข้อมูลเหล่านั้นจะเก็บในหน่วยความจำสำรองของคอมพิวเตอร์<br />3. ผลลัพธ์ ( Output ) คือสารสนเทศที่ได้จากการประมวลผล ซึ่งจะปรากฏอยู่ในรูป รายงานต่างๆ คุณลักษณะของสารสนเทศที่มีคุณภาพ ได้แก่<br />3.1 ตรงตามความต้องการ ( Relevancy ) หมายถึง ลักษณะสารสนเทศนั้นสามารถที่จะตอบคำถามในลักษณะที่เจาะจงได้ เช่น ในการขายเสื้อผ้าผู้ชาย ถ้าถามว่า เสื้อผ้าแบบไหน สีไหน ขายได้ดีที่สุด<br />3.2 ตรงต่อเวลา ( Timeline ) หมายถึง สารสนเทศที่ผลิตออกมานั้น จะผลิตออกมาทันกับความต้องการของผู้ใช้<br />3.3 ความเที่ยงตรง ( Accuracy ) หมายถึง สารสนเทศจะต้องไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและมีข้อผิดพลาด ลักษณะที่บ่งบอกถึงความเที่ยงตรงได้แก่<br />3.3.1 ความสมบูรณ์ ( Completeness ) สารสนเทศที่จำเป็นจะต้องมีอย่างครบถ้วน<br />3.3.2 ความถูกต้อง ( Correctness ) สารสนเทศจะต้องมีความถูกต้อง<br />3.3.3 ความปลอดภัย ( Security ) สารสนเทศจะต้องมีความปลอดภัย นั่นคือ ถ้าส่วนไหนจะให้ใครใช้<br />ก็ใช้ได้เฉพาะคนนั้นเท่านั้น<br />3.4 ประหยัด ( Economy ) หมายถึง การใช้ทรัพยากรที่จะผลิตสารสนเทศนี้มาใช้ในการแก้ปัญหาจะต้องไม่แพงมาก<br />3.5 มีประสิทธิภาพ ( Efficiency ) หมายถึง ศักยภาพในการพัฒนาสารสนเทศต่อหนึ่งหน่วยของทรัพยากรที่ใช้ เช่น ความตรงต่อเวลาต่อหนึ่งบาท เป็นต้น<br />4. ส่วนย้อนกลับ ( Feed back ) เป็นส่วนที่ใช้ในการควบคุมการทำงานของการประมวลผล เพื่อให้การประมวลผลนั้นบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผลจากการเปรียบเทียบจะนำไปสู่การปรับปรุงข้อมูลนำเข้า หรือกระบวนการประมวลผล</span></p><p align="left"><span style="color:#ffff66;"></span> </p><p align="left"><span style="color:#ffff66;">ประเภทของระบบสารสนเทศที่ใช้ในองค์กร<br />ปัจจุบัน ระบบสารสนเทศเป็นที่นิยมใช้ในองค์การทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ หรือ ขนาดเล็ก ระบบสารสนเทศที่ใช้กันอยู่ในองค์กรทั่วๆ ไป จำแนกได้ ดังนี้<br />1. ระบบประมวลผลรายการ ( Transaction Processing System : TPS )<br />ระบบประมวลผลรายการเป็นพื้นฐานของระบบธุรกิจ ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยผู้บริหารในระดับปฏิบัติการระบบจะใช้คอมพิวเตอร์ในการบันทึกรายการประจำวันในการทำธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ระบบการสั่งซื้อ ระบบการจองห้องพัก ระบบเงินเดือนและ ค่าจ้าง ระบบรับและสั่งสินค้าออก<br />เนื่องจากการบริหารในระดับปฏิบัติการ งานกฎเกณฑ์ และ เงื่อนไขได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแน่นอนแล้ว ดังนั้นการตัดสินใจจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้แล้วเท่านั้น ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจจะให้เครดิตแก้ลูกค้าของธนาคาร สิ่งที่ผู้บริหารในระดับนี้จะตัดสินใจว่าจะให้หรือไม่ เขาจะทำได้ก็เพียงแต่ตรวจว่าลูกค้ามีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้หรือไม่เท่านั้น<br />2. ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร ( Management Information System : MIS )<br />ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารหรือที่นิยมเรียกกันทั่วไป ว่า ระบบ MIS คือ ระบบที่ผลิตสารสนเทศที่ผู้บริหารต้องการเพื่อใช้ในการบริหารงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ระบบจะผลิตรายงานเพื่อผู้บริหาร บางกรณี ผู้บริหารอาจจะเรียกใช้ด้วยระบบออนไลน์ โดยทั่วไปแล้วระบบ MIS จะเป็นข้อมูลภายในองค์กร ไม่เกี่ยวกับข้อมูลภายนอก หรือ ข้อมูลสภาพแวดล้อม ในเบื้องต้น MIS จะผลิตสารสนเทศเพื่อผู้บริหาร โดยเฉพาะในด้านการวางแผน การควบคุม และ การตัดสินใจ<br />3. ระบบการสนับสนุนการตัดสินใจ ( Decision Support System : DSS )<br />ระบบการสนับสนุนการตัดสินใจส่วนมาก เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้การตัดสินใจ ของผู้บริหารเป็นไปได้อย่างสะดวก ระบบจะสามารถสรุปหรือเปรียบเทียบข้อมูลจากทุกแหล่งไม่ว่า จะเป็นข้อมูลภายใน หรือ ข้อมูลภายนอกองค์กร แหล่งข้อมูลภายใน ได้แก่ ข้อมูลในแฟ้มข้อมูลในองค์กรที่มีอยู่แล้ว เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการขาย ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิต ข้อมูลทางด้านการเงิน ข้อมูลจากแหล่งภายนอก ได้แก่ ข้อมูลด้านอัตราดอกเบี้ย ข้อมูลแนวโน้มประชากร หรือ ข้อมูลด้านความต้องการของตลาดโลก ระบบการตัดสินใจส่วนมากเป็นระบบที่มีการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับ คอมพิวเตอร์ และ จะมีความสามารถในการวิเคราะห์ค่าทางสถิติ มีตารางการทำงาน มีกราฟแบบ ต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ประเมิน<br />ข้อมูลในการตัดสินใจในระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ก้าวหน้ามาก ผู้ใช้อาจจะสร้างแบบจำลองของปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจ ลักษณะของระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ดี อาจสรุปได้ ดังนี้<br />1. ระบบจะต้องใช้ช่วยผู้บริหารในกระบวนการตัดสินใจ<br />2. ระบบจะต้องสามารถสนับสนุนการตัดสินใจได้ทุกระดับ แต่จะเน้นที่ระดับวางแผนบริหารและวางแผนกลยุทธ์<br />3. ระบบมีความสามารถในการจำลองสถานการณ์ และ มีเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์สำหรับช่วยเหลือผู้ตัดสินใจ<br />4. ระบบจะต้องสามารถติดต่อกับฐานข้อมูลขององค์กรได้<br />5.ระบบจะต้องเป็นระบบที่ตอบโต้กับผู้ใช้ได้ สามารถใช้งานได้ง่าย ผู้ใช้สามารถใช้งานได้โดยพึ่งความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญน้อยที่สุด<br />4. ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง ( Executive Support System : ESS )<br />ระบบสารสนเทศเพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้บริหารระดับสูง ติดตามผลการปฏิบัติงานขององค์การ ติดตามกิจกรรมของคู่แข่ง ชี้ให้เห็นปัญหา มองหาโอกาส และ คาดคะเนแนวโน้มต่างๆ ในอนาคต ในการนำ ESS มาใช้นั้น จะต้องออกแบบให้ระบบใช้ทั้งข้อมูลภายใน และ ข้อมูลภายนอกองค์กร นอกจากนี้ ยังต้องรวมเอาเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการจำลองการวิเคราะห์ ตัวอย่างเช่น LOTUS1-2-3 ,EXCEL หรือโปรแกรมตารางการทำงานอื่นๆ<br />5 ระบบผู้เชี่ยวชาญ ( Expert System )<br />ระบบผู้เชี่ยวชาญมีส่วนคล้ายคลึงกับระบบอื่นๆ คือเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้ผู้บริหารแก้ไขปัญหาหรือทำการตัดสินใจได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ระบบผู้เชี่ยวชาญจะแตกต่างกับระบบอื่นอยู่มาก เนื่องจากระบบผู้เชี่ยวชาญจะเกี่ยวข้องกับ การจัดการความรู้ ( Knowledge management ) มากกว่าสารสนเทศ และ ถูกออกแบบให้ช่วยในการตัดสินใจโดยใช้วิธีเดียวกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์โดยใช้หลักการทำงานด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์<br />( Artificial intelligence )<br />ระบบผู้เชี่ยวชาญจะทำการโต้ตอบกับมนุษย์โดยมีการถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความกระจ่าง ให้ข้อแนะนำ และ ช่วยเหลือในกระบวนการตัดสินใจ นั่นคือ การทำงานคล้ายกับเป็นมนุษย์ผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหานั้นๆ<br />เนื่องจากระบบนี้ ก็คือ การจำลองความรู้ของผู้เชี่ยวชาญจริงๆ มานั่นเอง โดยผู้เชี่ยวชาญในที่นี้อาจเป็นได้ทั้งผู้เชี่ยวชาญในการบริหาร ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องภาษี ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องยา หรือ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในการทำอาหารก็ตาม<br />หน่วยที่ 2<br />บทบาทของสารสนเทศในการบริหารองค์กรทางการศึกษา<br />สถานศึกษาสามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษาไปใช้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการทางการศึกษาได้อย่างหลากหลาย จะเห็นได้ว่า ลักษณะบางอย่างของเทคโนโลยี เช่น ความรวดเร็ว การจัดเก็บอย่างเป็นระบบ การทำงานที่ไม่ผิดพลาด และ การทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ตลอดจนลักษณะอื่นๆ อีกมาก ล้วนแต่สามารถนำมาใช้ในงานต่างๆ เพื่อให้ได้ผลที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็จะต้องคำนึงถึงผลที่เกิดขึ้นจากจากการทำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ด้วย เช่น การขาดความเฉลียว การขาดการจำแนกความแตกต่างที่ไม่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า ดังนั้น จึงต้องนำสิ่งต่างๆเหล่านี้เข้าไปอยู่ในระบบ เพื่อให้เกิดการทำงานที่เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด<br />2.1 ลักษณะที่เทคโนโลยี สามารถเพิ่มเติมประสิทธิภาพการบริหารจัดการ<br />ครรชิต มาลัยวงศ์ ( 2549 ) ได้กล่าวถึง เหตุผลที่หน่วยงานต่างๆ ควรนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการไว้ ดังนี้<br />2.1.1 การทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้สามารถประยุกต์ไปใช้ในงานที่ต้องการให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องมีเวลาหยุด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนได้แก่ การฝากและถอนเงินจากธนาคาร ซึ่งประยุกต์ใช้เครื่อง ATM ทำให้ลูกค้าสามารถฝากถอนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยโดยสร้างที่เก็บเงินให้แข็งแรงและนำไปตั้งไว้ในที่ปลอดภัย หรือมิเช่นนั้นก็ต้องสามารถส่งสัญญาณไปยังสถานที่ซึ่ง สามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลความปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว คุณลักษณะข้อนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานบริหารจัดการได้จำนวนมาก ในทางการศึกษาก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในเรื่องต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน เช่น<br />การเรียนรู้ด้วยระบบ e-Learning ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตลอดเวลาที่ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องเรียนตามตารางที่กำหนดไว้อย่างตายตัว บางครั้งผู้เรียนอาจไม่มีความพร้อมที่จะเข้าเรียน หรือ บางครั้งกำลังเรียนด้วยความเข้าใจและอยากเรียนอย่างต่อเนื่อง แต่พอหมดเวลาที่กำหนดไว้ก็ไม่สามารถจะเรียนต่อได้ แต่ระบบ<br />e-Learning จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดตามที่ตัวเองต้องการได้ โดยไม่ต้องขึ้นอยู่กับผู้สอนหรือต้องคอยเรียนพร้อมกับผู้เรียนคนอื่นๆ<br />2.1.2 การทำงานได้โดยไม่มีผิดพลาด ทำให้สามารถนำไปใช้ในงานจำนวนมากที่ต้องการความถูกต้องและเกิดผลที่ถูกต้อง เช่น การตรวจข้อสอบ การอ่านบาร์โค้ด การที่คอมพิวเตอร์ สามารถทำงานดังกล่าวได้โดยไม่มีผิดพลาด ทำให้สามารถ นำไปประยุกต์ใช้กำหนดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล หนังสือ สิ่งของ ตลอดจนสินค้า แต่ละรายการ โดยออกแบบให้คอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลเข้าไปที่มีความแตกต่างกัน เช่น อาจจะเป็นตัวเลข สัญลักษณ์ หรือ รหัสต่างๆ เมื่อพบข้อมูลที่กำหนดไว้ ก็จะสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ผิดพลาด<br />2..1.3 การทำงานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถนำไปใช้กับงานที่มีปริมาณมาก ทำให้งานเสร็จได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ในสมัยแรกๆ จึงมีการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานสำมะโน ประชากรซึ่งต้องมีการนำข้อมูลจำนวนมากมานับรวมกัน และ ยังมีการคำนวณจำนวนมากด้วย สำนักงานสถิติแห่งชาติ จึงเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานในลักษณะดังกล่าว ในปัจจุบันได้มีการประยุกต์คุณลักษณะข้อนี้ ไปใช้อย่างกว้างขวาง เช่น การสื่อสารที่ต้องการความรวดเร็ว ข้อมูลที่ส่งมาจากแหล่งต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลกันสามารถนำมาประมวลผลร่วมกันภายในเวลา อันรวดเร็ว เช่น การรวมคะแนนจากหน่วยเลือกตั้งจำนวนมาก สามารถนำมาประมวลผลและประกาศผลได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ในทางการศึกษาก็มีงานลักษณะเช่นนี้เป็นจำนวนมาก เช่นกัน เช่น การจัดทำข้อมูลการคัดเลือกเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย และ การประกาศผลสอบคัดเลือก เป็นต้น<br />2.1.4 การทำงานอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดความชัดเจนของขั้นตอนการทำงาน รายละเอียดของข้อมูลนำเข้า และ รายละเอียดของผลผลิตของงาน ก่อนที่จะใช้คอมพิวเตอร์ทำงานจำเป็นต้องคิดวิเคราะห์ และ ออกแบบระบบงานให้ชัดเจนเสียก่อน ต่อจากนั้นจึงจะสร้างระบบงานที่ใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยทำงาน ในการทดลองระบบงานหรือในการทำงานจริง ถ้าพบข้อมูลผิดพลาดใดๆ ก็สามารถตรวจสอบและค้นหาสาเหตุ หากพบสาเหตุที่ผิดพลาดก็จะสามารถแก้ไขชุดคำสั่งงานและทดลองจนกว่าจะได้ผลตามที่ต้องการ ผลจากการทำงานอย่างเป็นระบบทำให้มีการนำเทคโนโลยีนี้เข้ามามาใช้งานแทบทุกอย่าง ซึ่งนอกจากจะได้ผลงานตามความต้องการแล้วยังสามารถตรวจสอบองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจนทุกขั้นตอนอีกด้วย<br />2.2 การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา<br />การที่นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษามีคุณลักษณะที่ดีหลายประการ ดังกล่าวข้างต้น จึงได้มีการพัฒนาและนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการทางการศึกษา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการงาน ในการประยุกต์เข้าไปช่วยด้านการบริหาร จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นการเฉพาะด้วย องค์ประกอบของเทคโนโลยีการศึกษาก็เช่นเดียวกัน หากจะนำไปใช้ในการบริหารจัดการก็ต้องเตรียมความพร้อมของทุกองค์ประกอบ และให้องค์ประกอบเหล่านั้นทำงานอย่างสอดคล้องกัน โดยต้องดำเนินการในเรื่องที่สำคัญ ดังนี้<br />2.2.1 การจัดทำแผนการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจและเตรียมตัวในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องให้ประสานสอดคล้องกัน การเตรียมงบประมาณรองรับเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้เพียงพอ ขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมคนที่จะดูแลระบบงานใหม่เพื่อให้สามารถทำงานตามบทบาทหน้าที่ที่ได้กำหนดไว้ สิ่งสำคัญที่จะละเลยไม่ได้คือ ผู้เกี่ยวข้องที่เกิดจากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จำเป็นต้องได้รับทราบ และ ทำความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย<br />2.2.2 การพัฒนาหรือจัดหาระบบเทคโนโลยีที่ต้องการนำเข้ามาใช้ จะต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยมีการพิจารณา ศึกษาวิเคราะห์ และ คัดเลือกด้วยวิธีการที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ขั้นตอนนี้อาจต้องใช้เวลาและต้องเกิดความมั่นใจว่าจะได้ระบบที่ดีที่เหมาะสมต่อการใช้งาน การให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เข้ามาช่วยจัดหาระบบจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะการเปรียบเทียบระบบที่มีใช้กันอยู่แล้ว กับระบบที่สร้างขึ้นใหม่ หรือ การเลือกใช้ระบบที่มีใช้กันอยู่ที่อื่น แต่อาจจะต้องพัฒนาปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จะต้องกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจน และ ให้รวมไปถึงการจัดหาคณะผู้พัฒนาระบบ หรือ ผู้ให้บริการที่จะปรับปรุงพัฒนาระบบที่จะนำมาใช้ในสถานศึกษาที่จะนำเทคโนโลยีนั้นมาใช้บริหารจัดการ<br />2.2.3 การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีความสำคัญต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อการบริหารจัดการมาก เนื่องจากระบบงานด้านเทคโนโลยี มีองค์ประกอบจำนวนมากทั้ง Hardware , Software , และ Application องค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้ จะต้องสอดคล้องกัน ปัญหาที่มักพบก็คือการใช้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกที่ไม่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงขององค์กร หรือการใช้บุคลากรขององค์กรที่ขาดความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลายเพียงพอต่อการเลือกองค์ประกอบดังกล่าวให้เหมาะสมกัน โดยเฉพาะความทันสมัยของเทคโนโลยีของแต่ละองค์ประกอบที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การมีคณะจัดหาระบบเทคโนโลยีที่เหมาะสม จึงควรใช้ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรขององค์กรร่วมกัน โดยคณะทำงานนี้จะต้องมีเวลาร่วมกันพิจารณาและจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนเพื่อให้ระบบที่ดีที่สุด ในระหว่างที่มีการพิจารณาจัดหาอาจจะต้องไปศึกษาดูงานจากการใช้จริงขององค์กรอื่นที่เทียบเคียงกันได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างดี<br />2.2.4 การพัฒนาบุคลากรที่ควบคุมการใช้เทคโนโลยี เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้การทำงานประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ บุคลากรที่ควบคุมการใช้เทคโนโลยีจะต้องพัฒนาให้มีความรู้และสามารถทำงานตามข้อกำหนดของการใช้เทคโนโลยีได้อย่างครบถ้วน ในขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาหรือทำความเข้าใจกับผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องให้สามารถประยุกต์งานที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับระบบงานใหม่ที่นำมาใช้ด้วย มิเช่นนั้นอาจจะพบว่ากว่าจะใช้งานได้พร้อมเพรียงกัน เทคโนโลยีที่นำมาเข้ามาใช้ก็ล้าสมัยและจำเป็นต้องปรับปรุงใหม่ ทั้งๆที่ผลงานที่ได้ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด<br />2.2.5 การบำรุงรักษา เป็นเรื่องสำคัญมากที่การใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาจะต้องมีแผนการบำรุงรักษาระบบงาน ซึ่งมีทั้ง Hardware , Software และ การพัฒนาบุคลากร ในการบำรุงรักษา Hardware จำเป็นต้องมีการปรับปรุงอุปกรณ์บางส่วนให้ทันสมัย อุปกรณ์บางส่วนต้องดูแลตามกำหนด Software บางส่วนต้องปรับปรุงให้รองรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป และ ระบบงานบางส่วนต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการในการใช้งาน นอกจากนั้น ยังต้องคำนึงถึงการเพิ่มจัดทำระบบใหม่เพิ่มเติมที่ควรจะต้องสามารถเชื่อมต่อกับระบบเดิม และ นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปใช้งานร่วมกัน หากข้อมูลจากระบบเดิมไม่สามารถหรือ ไม่สะดวกที่จะนำไปใช้กับระบบงานใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามา จะทำให้เกิดปัญหาในการบริหารจัดการและจะนำไปสู่การเลิกใช้ระบบใดระบบหนึ่งต่อไป หรือมิเช่นนั้นก็ต้องจัดทำระบบใหม่และ เลิกระบบที่สร้างขึ้นทั้งหมด ดังนั้น การบำรุงรักษาระบบงานให้เหมาะสมต่อความต้องการที่มีการเปลี่ยนแปลงและสอดคล้องกับเทคโนโลยีจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเห็นคุณค่าและเกิดเจตดติที่ดีต่อการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการอีกด้วย<br />2.2.6 การติดตามประเมินผล ระบบงานบริหารจัดการที่ใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยควรมีการประเมินผลอย่างน้อย 2 ส่วน ด้วยกัน ส่วนแรกต้องประเมินผลงานที่กำหนดไว้ในแผนงาน เช่น ความสามารถให้บริการตามเป้าหมาย การนำเสนอรายงานตามกำหนดเวลา ส่วนที่สองที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ก็คือ การประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ เพื่อสะท้อนให้เห็นสถานภาพของระบบงานที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ ในด้านความเร็ว ความแม่นยำถูกต้อง และ ความสะดวกในการใช้ระบบงาน การติดตามประเมินผลควรจะมีระยะเวลากำหนดไว้ตลอดช่วงเวลาในแต่ละปี หากพบข้อบกพร่องหรือมีข้อเสนอแนะที่ควรแก่การแก้ไขปรับปรุงก็ควรพิจารณา และ ปรับปรุงให้สอดคล้องตรงตามความต้องการของผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง</span></p>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-30336074823318498432009-02-14T10:53:00.003+07:002009-02-14T10:56:21.180+07:00เทคโนโลยีใหม่การรวมเน็ต 2 สายเข้าไว้ด้วยกันด้วย Server linux <br />ทำให้ความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน้ตเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้ง download และ upload<br /><a href="http://www.combocom.com/vdo/allnet.htm">ตัวอย่าง </a>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-5578659382063166262009-02-06T03:38:00.016+07:002009-02-06T04:16:20.313+07:00<embed src='http://www.crazyprofile.com/comment_generator/comment03.swf' width='350' height='250' FlashVars='mesg=I am so proud when you look at meso softly and the world can see our feelings By Nomoon' quality='high' wmode='transparent' align='middle' allowScriptAccess='sameDomain' type='application/x-shockwave-flash' pluginspage='http://www.macromedia.com/go/getflashplayer'/></embed>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-87723980982067702182009-01-30T19:10:00.001+07:002009-01-30T19:15:00.007+07:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiZQrx6BQYJDu9lzdG7vivOmta9zNurYW9cwnzqcCv4E_ktgKgemiRs1m8D0rKbQ8Hg7KqM6eCAC3u0x-8Qole6qt9UwiWERVRiv3S0dIyxaJvdjLSMWDAfhvoTLfTkwfl6yfOosZGjQVDi/s1600-h/nilnate01.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 67px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiZQrx6BQYJDu9lzdG7vivOmta9zNurYW9cwnzqcCv4E_ktgKgemiRs1m8D0rKbQ8Hg7KqM6eCAC3u0x-8Qole6qt9UwiWERVRiv3S0dIyxaJvdjLSMWDAfhvoTLfTkwfl6yfOosZGjQVDi/s320/nilnate01.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5297059080561194082" /></a>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-9528442472158337982008-12-24T00:58:00.002+07:002008-12-24T00:58:53.005+07:00<div><embed src="http://widget-e4.slide.com/widgets/slideticker.swf" type="application/x-shockwave-flash" quality="high" scale="noscale" salign="l" wmode="transparent" flashvars="cy=bb&il=1&channel=3386706919784720356&site=widget-e4.slide.com" style="width:400px;height:320px" name="flashticker" align="middle"></embed><div style="width:400px;text-align:left;"><a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=3386706919784720356&map=1" target="_blank"><img src="http://widget-e4.slide.com/p1/3386706919784720356/bb_t016_v000_s0un_f00/images/xslide1.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=3386706919784720356&map=2" target="_blank"><img src="http://widget-e4.slide.com/p2/3386706919784720356/bb_t016_v000_s0un_f00/images/xslide2.gif" border="0" ismap="ismap" /></a> <a href="http://www.slide.com/pivot?cy=bb&at=un&id=3386706919784720356&map=F" target="_blank"><img src="http://widget-e4.slide.com/p4/3386706919784720356/bb_t016_v000_s0un_f00/images/xslide42.gif" border="0" ismap="ismap" /></a></div></div>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-45763012053861045262008-12-15T22:29:00.001+07:002008-12-15T22:30:24.224+07:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj2S9HhJKE7Y6Ng3s2h9XFyXNJpq99jOpElwinoP6q3msle0-n8tSB5UqsOt2NoGpNTWgGRPuucCRgG-a6UL9LHFw98424F_jfEl9Lo8pvib5CXivoKJu36u2KC74ZOcCmcNUzd6WOQ4-gQ/s1600-h/999.jpg"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 400px; height: 111px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj2S9HhJKE7Y6Ng3s2h9XFyXNJpq99jOpElwinoP6q3msle0-n8tSB5UqsOt2NoGpNTWgGRPuucCRgG-a6UL9LHFw98424F_jfEl9Lo8pvib5CXivoKJu36u2KC74ZOcCmcNUzd6WOQ4-gQ/s400/999.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5280039606451390914" /></a>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-51648994152940569282008-12-14T15:51:00.003+07:002008-12-15T22:28:40.846+07:00Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-48024060651375579642008-12-14T12:03:00.000+07:002008-12-14T12:04:07.754+07:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj6Da3jzqFD57hFCBwLSAtSIpfn1lmoc2kRVnXwwFGPICXcQhl1y22pZMYYKNn99_rC4enAitIidLnsUQnlmtGzFXd_NLOgrYBh_doAuicWfpJ9PmbFD7pn-vmxEOYVohq_wJum0SbWqeNH/s1600-h/001.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5279507105329963954" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 377px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj6Da3jzqFD57hFCBwLSAtSIpfn1lmoc2kRVnXwwFGPICXcQhl1y22pZMYYKNn99_rC4enAitIidLnsUQnlmtGzFXd_NLOgrYBh_doAuicWfpJ9PmbFD7pn-vmxEOYVohq_wJum0SbWqeNH/s400/001.jpg" border="0" /></a><br /><div></div>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-89423224651612497822008-12-07T15:53:00.001+07:002008-12-07T16:35:00.839+07:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgwEMj4h4ymdd5rCvP5Fe2MWMOUm3Fp_sQXQciXqQ2Fhi4atdnKiozlOpkh8FWue84aCH_V-HDb4jkTmcltrtAovCJeSKek_cdewtoFdY842z3d3R-KZr485hPlvtxxmf_yqe-fPtFfi287/s1600-h/02.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5276979314393443714" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 213px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgwEMj4h4ymdd5rCvP5Fe2MWMOUm3Fp_sQXQciXqQ2Fhi4atdnKiozlOpkh8FWue84aCH_V-HDb4jkTmcltrtAovCJeSKek_cdewtoFdY842z3d3R-KZr485hPlvtxxmf_yqe-fPtFfi287/s400/02.jpg" border="0" /></a><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjGonJ_CGqlzmr4Po-e0vr9NSj1vyZb-qwtdXcqQSpIhIdQaCdsOrFYyHX6gwZg6ltzhvDvxXmLKcPjfJZO3aik7aKSoZqmPkGDCPd_ytOCkJW5mTIKu3g_Vq7JkxqjiuZQsPHcFURsFB-c/s1600-h/wedding_Cartoon_P.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5276969140788395426" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 378px; CURSOR: hand; HEIGHT: 294px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjGonJ_CGqlzmr4Po-e0vr9NSj1vyZb-qwtdXcqQSpIhIdQaCdsOrFYyHX6gwZg6ltzhvDvxXmLKcPjfJZO3aik7aKSoZqmPkGDCPd_ytOCkJW5mTIKu3g_Vq7JkxqjiuZQsPHcFURsFB-c/s400/wedding_Cartoon_P.jpg" border="0" /></a><br /><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjN9UXlY-DtLkn_ARWel8REIX-fxR525O6Ly2iLFm1ukvwyuiwnqFS1z-DY0kuMXQoSZ5kBM24CPwqtOSxB9nLyaEYG5A5FLiAN0uHTUWo8MbRL1NMMCgmrrPacsY4A-QbgI61QkJySs4IP/s1600-h/004.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5276969134457765442" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 300px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjN9UXlY-DtLkn_ARWel8REIX-fxR525O6Ly2iLFm1ukvwyuiwnqFS1z-DY0kuMXQoSZ5kBM24CPwqtOSxB9nLyaEYG5A5FLiAN0uHTUWo8MbRL1NMMCgmrrPacsY4A-QbgI61QkJySs4IP/s400/004.jpg" border="0" /></a><br /><br /><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgzGrpENKDSFXSVf-KgwOZjg_GVfqEb45XeCXjE0mU3atqw9jvan1uR_U2zKnJMIKtkTF5oZTCBpPmN1HuooVkV3spsQZQto6yU1JRfUgZT9Qo1YirBrdtTCDWgh087CkEvtZaQWTRDGOR3/s1600-h/120.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5276969137111986146" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 259px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgzGrpENKDSFXSVf-KgwOZjg_GVfqEb45XeCXjE0mU3atqw9jvan1uR_U2zKnJMIKtkTF5oZTCBpPmN1HuooVkV3spsQZQto6yU1JRfUgZT9Qo1YirBrdtTCDWgh087CkEvtZaQWTRDGOR3/s400/120.jpg" border="0" /></a><br /><br /><br /><br /><div></div></div></div></div>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-3211945561994834642008-12-07T11:26:00.000+07:002008-12-07T11:27:35.742+07:00ดีจ้า<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEibc5fWKHMmoop2bk8c68nj7B7nxiLd1RmwGyIiJX7TbmrVUXDR_j98OMLGA9n0kCOVizShGSEMqAnFrJB5UbMJOBNrKPa3qz-Ja8iZSc8pZWTfGFT8o0rCgaW1h9ANpluiFdnPM18KGzsj/s1600-h/3313.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5276900071776435730" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 300px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEibc5fWKHMmoop2bk8c68nj7B7nxiLd1RmwGyIiJX7TbmrVUXDR_j98OMLGA9n0kCOVizShGSEMqAnFrJB5UbMJOBNrKPa3qz-Ja8iZSc8pZWTfGFT8o0rCgaW1h9ANpluiFdnPM18KGzsj/s400/3313.jpg" border="0" /></a><br /><div></div>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-50512206124723829842008-11-29T19:05:00.010+07:002008-12-20T19:24:20.738+07:00ความรู้โปรแกรม Adobe Photostoshop<div align="center"><span style="color:#006600;"><span style="color:#cc0000;">การสร้างและตกแต่งตัวอักษรจากโปรแกรม Adobe Photoshop </span></span></div><div align="center"><br /></div><div align="left"><span style="color:#006600;"><span style="color:#cc0000;">ขั้นตอนการทำ</span><br /><br /></span><span style="color:#ffff33;">1. หลังจากเข้าโปรแกรม Adobe Photoshop ให้คลิกที่คำสั่ง File แล้วเลือก New... หรือกดคีย์ลัดบนคีย์บอร์ด Ctrl+N<br />2. กำหนดขนาดพื้นที่การทำงานในช่อง Preset ตามต้องการ และกำหนดค่าอื่นๆ ตามที่ต้องการ เช่น ค่าในช่อง Color mode เลือกเป็น RGB Color (สำหรับงานที่แสดงออกทางจอภาพ) เป็นต้น<br />3. ในการสร้างตัวอักษรให้คลิกเลือกเครื่องมือที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปตัว T หรือกดปุ่ม T บนคีย์บอร์ด เครื่องมือนี้มีชื่อว่า Type tool ซึ่งมีอยู่ 4 แบบ ได้แก่ 1. Horizontal type tool ใช้สำหรับสร้างตัวอักษรตามแนวนอน 2. Vertical type tool ใช้สำหรับสร้างตัวอักษรในแนวตั้ง 3. Horizontal type mask tool ใช้สร้างตัวอักษรโดยการเจาะรูปภาพมาใส่ข้างในตัวอักษรตามแนวนอน และ 4. Vertical type mask tool ใช้สร้างตัวอักษรเหมือนกับข้อ 3 แต่สร้างในแนวตั้ง</span></div><div align="center"><br /></div><div align="center"><span style="color:#66ffff;">การสร้างข้อความโดยใช้เครื่องมือ Horizontal type tool<br /></span></div><div align="center"><span style="color:#66ffff;"><br /></span></div><div align="left"><span style="color:#66ffff;">1. เลือกเครื่องมือ Horizontal type tool แล้วคลิกบนตำแหน่งที่ต้องการสร้างตัวอักษร</span></div><div align="left"><span style="color:#66ffff;">2. พิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไป<br />3. ที่ด้านล่างของ Menu bar จะมีแถบสำหรับการปรับแต่งตัวอักษรอยู่ เช่น การเปลี่ยนขนาด การเปลี่ยนฟอนต์ตัวอักษร เป็นต้น</span></div><div align="left"><span style="color:#66ffff;">4. เมื่อได้ข้อความตามต้องการแล้วให้คลิกที่เครื่องมือ Move tool หรือกดปุ่ม V บนคีย์บอร์ด</span></div><div align="left"><span style="color:#66ffff;">5. หากต้องการขยายขนาดข้อความให้คลิกที่คำสั่ง Edit แล้วเลือก Free transform หรือกด Ctrl+T บนคีย์บอร์ด เมื่อขยายหรือย่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ด</span></div><div align="left"><span style="color:#66ffff;">6. เลือกคำสั่ง Layer > Layer style > Blending options เพื่อใส่ลูกเล่นต่างๆ ให้กับข้อความ หรือคลิก เมาส์ขวาบน Layer ของตัวอักษรที่เราสร้างขึ้นมาที่หน้าต่าง Layer ด้านขวามือแล้วเลือกคำสั่ง Blending options</span></div><div align="left"><span style="color:#66ffff;">7. จะปรากฏหน้าต่าง Layer style ขึ้นมา ทางด้านซ้ายมือจะมีชื่อลูกเล่นต่างๆ ดังนี้ 1. Drop shadow คือการใส่เงาให้ข้อความโดยเงาจะปรากฏด้านนอกตัวข้อความ 2. Inner shadow คือการใส่เงาให้กับข้อความแต่เงาจะปรากฏบนตัวอักษร 3. Outer glow การใส่แสงให้กับข้อความโดยแสงจะปรากฏด้านนอกตัวอักษร 4. Inner glow คือการใส่แสงด้านในตัวอักษร 5. Bevel and emboss การทำให้ตัวอักษรนูนขึ้นหรือยุบลงไป ทำให้เกิดมิติ 6. Satin คือการใส่สีเคลือบทับสีเดิมของตัวตักษร 7. Color overlay คือการใส่สีให้กับตัวอักษร 8. Gradient overlay คือการใส่สีแบบไล่เฉดสีให้กับตัวอักษร 9. Pattern overlay คือการใส่ลวดลายแบบพื้นผิวลงในตัวอักษร 10. Stroke คือการใส่สีที่ล้อมรอบด้านนอกตัวอักษร</span></div><div align="left"><span style="color:#66ffff;">8. เลือกใส่ลูกเล่นตามต้องการแล้วคลิก OK</span></div><div align="center"><br /></div><div align="center"><span style="color:#cc0000;">การสร้างข้อความโดยใช้เครื่องมือ Vertical type tool</span> </div><div align="center"><br /></div><div align="center"><span style="color:#33ff33;">(สามารถทำได้เหมือนกับเครื่องมือ Horizontal type tool แต่ข้อความจะเป็นแนวตั้ง)การสร้างข้อความโดยใช้เครื่องมือ Horizontal type mask tool</span></div><div align="left"><span style="color:#33ff33;"></span></div><div align="left"><span style="color:#33ff33;">1. เลือกคำสั่ง File แล้วเลือก Open เพื่อเลือกรูปภาพมาหนึ่งรูป</span></div><div align="left"><span style="color:#33ff33;">2. เลือกเครื่องมือ Horizontal type mask tool แล้วคลิกลงบนตำแหน่งที่ต้องการบนรูปภาพที่เลือกมา</span></div><div align="left"><span style="color:#33ff33;">3. พื้นที่การทำงานจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมส้ม ให้พิมพ์ข้อความลงไปตามต้องการ</span></div><div align="left"><span style="color:#33ff33;">4. เลือกที่เครื่องมือ Move tool ส่วนที่เราพิมพ์ข้อความจะเปลี่ยนเป็นเส้นประ</span></div><div align="left"><span style="color:#33ff33;">5. คลิกที่คำสั่ง File แล้วเลือก New</span></div><div align="left"><span style="color:#33ff33;">6. ใช้เครื่องมือ Move tool คลิกเมาส์ค้าง (drag mouse) บนพื้นที่เส้นประของข้อความแล้วลากไปวางที่พื้นที่ที่เราสร้างขึ้นมาใหม่ สังเกตรูปเมาส์จะเปลี่ยนเป็นเครื่องหมาย + แล้วปล่อยปุ่มเมาส์<br />7. จะได้ข้อความที่ข้างในเป็นรูปภาพที่เราเลือกมา<br />8. ตกแต่งใส่ลูกเล่นได้เหมือนกับการสร้างข้อความด้วยเครื่องมือ Horizontal type tool</span></div><div align="center"><br /></div><div align="center"><span style="color:#3333ff;"><span style="color:#ff0000;">การสร้างข้อความโดยใช้เครื่องมือ Vertical type mask tool</span> (สามารถทำได้เหมือนกับเครื่องมือ Horizontal type mask tool แต่ข้อความจะเป็นแนวตั้ง)</span></div><div align="center"><br /></div><div align="center"></div><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5274077587380603218" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 300px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjgJO8D_mK9Uqcn9oabcRRoTUh1NgQ7eKp-wPInC2GfBjKKFRdaLz7iEqlgHSNu121umQS3S-ghlk-A8Ow7-tg5aK8Wkik9H0JG4I8yMP5kZ6EEvWsUDmaaDFHN1JuH8GvyqqkypRhJ2snA/s400/nil007.gif" border="0" /> <p align="center"><br /><span style="color:#3333ff;">ภาพการแสดงตัวอย่าง </span><br /></p><p><span style="color:#3333ff;"></span></p><br /><p><span style="color:#3333ff;"></p><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5274972208394777346" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; CURSOR: hand; HEIGHT: 267px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjKeKuOy3ejmyXp0ZPQc3hCGBY5k1g-irMwgBYyJd6WZf6b6yeK4Q-4tAHCCYYn7rcB4JY6OWQqsbrDsR7oRhMfSjbt8nxB-IM1JcPF_PnVlaSqb7hu23nIAziJKUZNDaCiNUf4agemymwE/s400/003.jpg" border="0" /><br /><p align="center"><br /></p></span><span style="color:#3333ff;"></span>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-6248062700527180212008-11-02T13:13:00.010+07:002008-11-25T18:58:28.765+07:00แบบฝึกหัดนวัตกรรม<span style="color:#009900;">นางสาวนิลเนตร อ่ำสกุล เลขที่ 16<br /><span style="color:#ff6600;">1. นวัตกรรม คืออะไร<br /></span>ตอบ ความคิดการกระทำต่างๆ ที่นำมาใช้ปรับปรุงเพิ่มประโยชน์ในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น<br /><span style="color:#ff9900;">2. นวัตกรรม ตรงกับ ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร</span><br />ตอบ นวัตกรรมตรงกับภาษาอังกฤษว่า innovation ซึ่งหมายความว่า การทำเอกสิ่งใหม่ที่อาจอยู่ในรูปแบบทางความคิด หรือการกระทำ รวมถึงสิ่งประดิษฐ์เข้ามาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน<br /><span style="color:#ff6600;">3. สิ่งที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมคืออะไร</span><br />ตอบ สิ่งที่เราคิดใหม่และเรานำสิ่งนั้นมาปฏิบัติหรือเป็นสิ่งที่เรามีอยู่เดิมเรานำมาปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงในความคิดใหม่มาทำเป็นสิ่งขิงชิ้นใหม่<br /><span style="color:#ff6600;">4. ท่านมีแนวทางการจัดสร้างนวัตกรรมอย่างไร</span><br />ตอบ แนวทางในหารสร้างนวัตกรรม ของข้าพเจ้าก็จะดูจากรอบตัวเราว่าในการเรียนการสอนใน<br />แต่ละครั้งเรายังขาดสิ่งใดหรือสิ่งใดควรเสริมเข้าไปเช่นการสอนที่เป็นแบบการพูดให้เด็กฟังหน้าชั้นอาจทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่าย เรา ก็นำจุดนี้มาแก้ไขปรับปรุงโดยการคิดสื่อที่ทำให้เด็กมีส่วนเราในการเรียนการสอน เช่น สื่อการสอบแบบทันสมัยจากแบบเดิมฟังครูอย่างเดียวนั้นเราก็ใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นภาพเคลื่อนไหวมีการทดลองเพื่อให้เด็กได้เห็นสิ่งแปลงใหม่ และเกิดความเล่าใจในการเรียน<br /><span style="color:#ff6600;">5. เทคโนโลยีคืออะไร</span><br />ตอบ คือการนำวัสดุอุปกรณ์หรือวิธีการใดๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นระบบเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ<br /><span style="color:#ff6600;">6. คำว่าเทคโนโลยีตรงกับภาษาอังกฤษว่าอย่างไร</span><br />ตอบ Toweare,Contruct to weare<br /><span style="color:#ff6600;">7. คำว่าเทคโนโลยีภาษากรีกว่าอย่างไร<br /></span>ตอบ ตรงกับภาษากรีกในคำว่า Techologia การำทงานอย่างเป็นระบบ<br /><span style="color:#ff6600;">8. คำว่าเทคโนโลยีภาษาลาตินว่าอย่างไร</span><br />ตอบ ตรงกับภาษาลาตินในคำว่า Texere<br /><span style="color:#ff6600;">9. ข้อใดที่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีตามความหมายทัศนะทางวิทยาศาสตร์กายภาพอย่างไร<br /></span>ตอบ ทัศนะทางวิทยาศาสตร์กายภาพ คือ เครื่องยนต์กลไกลไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์<br /><span style="color:#ff6600;">10. ข้อใดเป็นเทคโนโลยีตามความหมายทัศนะทางพฤติกรรมศาสตร์อย่างไร<br /></span>ตอบ ทัศนะทางพฤติกรรมศาสตร์ คือ การนำโครงสร้างทางด้านพฤติกรรมมากำหนดรวบรวมในกระบวนการทางด้านความคิดหรือกระบวนการสอนต่างๆ ที่เป็นพฤติกรรม<br /><span style="color:#ff6600;">11. เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างกันอย่างไร</span><br />ตอบ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างกัน ตรงสถานการที่มันเกินขึ้นมาและการนำมาใช้เช่นเมื่อเราเกิดความคิดใหม่ๆจะทำสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นของที่เราสามารถนำมาใช้และเกิดประโยชน์ก็จะเป็นนวัตกรรม และเมื่อเรานำมาจนแพร่งหลายโดยทั่วกันเราจึงเรียกสิ่งนั้นใหม่ว่าเทคโนโลยี<br /><span style="color:#ff6600;">12. เทคโนโลยีและนวัตกรรมอะไรเกิดขึ้นก่อน</span><br />ตอบ นวัตกรรมคือสิ่งที่เราคิดใหม่และเรานำสิ่งนั้นมาปฏิบัติหรือเป็นสิ่งที่เรามีอยู่เดิมเรานำมาปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงในความคิดใหม่มาทำเป็นสิ่งของชิ้นใหม่ สามารถนำมาใช้จนเกิดการเรียกว่าเป็นเทคโนโลยีเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างกัน ตรงสถานการที่มันเกิดขึ้นมาและการนำมาใช้เช่นเมื่อเราเกิดความคิดใหม่ๆจะทำสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นของที่เราสามารถนำมาใช้และเกิดประโยชน์ก็จะเป็นนวัตกรรม และเมื่อเรานำมาจนแพร่งหลายโดยทั่วกันเราจึงเรียกสิ่งนั้นใหม่ว่าเทคโนโลยี ดังนั้น นวัตกรรม จึงเกิดก่อน เทคโนโลยี<br /><br /><span style="color:#ff6600;">13. หาความหมายการศึกษา 3 อย่าง</span><br />ตอบ ความหมายของการศึกษา 3 รูปแบบดังนี้<br />1. <span style="color:#ff6600;">ยัง ยัคส์ รุสโซ (Jean Jacques Rousseau)</span> ได้ให้ความหมายของการศึกษาไว้ว่า การศึกษาคือ การปรับปรุงคนให้เหมาะกับ โอกาสและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป หรืออาจกล่าวได้ว่า การศึกษาคือการนำความสามารถในตัวบุคคลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ </span><br /><span style="color:#009900;"><br />2. <span style="color:#ff6600;">จอห์น ดิวอี้ (John Dewey)</span> ได้ให้ความหมายของการศึกษาไว้หลายความหมาย คือ<br />1. การศึกษาคือชีวิต ไม่ใช่เตรียมตัวเพื่อชีวิต<br />2. การศึกษาคือความเจริญงอกงาม<br />3. การศึกษาคือกระบวนการทางสังคม<br />4. การศึกษาคือการสร้างประสบการณ์แก่ชีวิต<br /><br />3. <span style="color:#ff6600;">คาร์เตอร์ วี. กู๊ด (Carter V. Good)</span> ได้ให้ความหมายของการศึกษาไว้ 3 ความหมาย คือ<br />1. การศึกษาหมายถึงกระบวนการต่าง ๆ ที่บุคคลนำมาใช้ในการพัฒนาความรู้ ความสามารถ เจตคติ ความประพฤติที่ดีมีคุณค่า และมีคุณธรรมเป็นที่ยอมรับนับถือของสังคม<br />2. การศึกษาเป็นกระบวนการทางสังคมที่ทำให้บุคคลได้รับความรู้ความสามารถจากสิ่งแวดล้อมที่โรงเรียนจัดขึ้น<br />3. การศึกษาหมายถึงการถ่ายทอดความรู้ต่าง ๆ ที่รวบรวมไว้อย่างเป็นระเบียบให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษา</span><br /></span>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-14672072418704950122008-11-02T02:04:00.003+07:002008-11-25T18:43:40.004+07:00ความหมายและความสำคัญของนวัตกรรมและสารสนเทศ<span style="color:#3366ff;">1.1 ความหมายของนวัตกรรมการศึกษา<br />คำว่า นวัตกรรมการศึกษา ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Education Innovation ซึ่งหมายถึง การนำเอาสิ่งใหม่ที่อาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำ รวมถึงสิ่งประดิษฐ์เข้ามาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน ตลอดจนการบริหารจัดการทางการศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้รวดเร็วกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจและแสวงหาความรู้เพิ่มมากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมส่วนใหญ่จะเกิดจากส่วนประกอบของเทคโนโลยี ซึ่งเมื่อเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงก็มักจะทำให้นวัตกรรมเปลี่ยนแปลงไปด้วย<br /><br />1.2 ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา<br />คำว่า เทคโนโลยี เป็นคำที่ใช้ทับศัพท์คำว่า Technology ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาค้นพบทางด้านวิทยาศาสตร์แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ขึ้น เทคโนโลยีการศึกษาจึงหมายถึง การนำเทคโนโลยีบางอย่างมาประยุกต์ใช้ในการศึกษา เพื่อสร้างเสริมกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดได้ง่ายและรวดเร็ว<br />คำว่า นวัตกรรม และ เทคโนโลยี จึงมีส่วนเกี่ยวข้องกัน แม้ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรร์และส่งประดิษฐ์มาประยุกต์ โดยมีกระบวนการกระทำหรือจัดการทำให้เกิดนวัตกรรมขึ้นมาก็ตาม แต่คนส่วนใหญ่มักจะใช้คำว่า เทคโนโลยี แทน โดยเฉพาะในปัจจุบันได้มีการประยุกต์วิธีการโดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology) ซึ่งประกอบด้วยคอมพิวเตอร์และการสื่อสารทางไกลเป็นองค์ประกอบหลักเข้ามาใช้ในการศึกษา จึงมักจะเรียกว่า การใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารการศึกษา หรือเรียกย่อว่า การใช้ ICT ทางการศึกษา แทนที่จะใช้คำว่า “นวัตกรรมทางการศึกษา” และเพื่อให้สอดคล้องกับความนิยมในการใช้คำเช่นนี้ ในบทเรียนนี้จึงขอใช้คำว่า เทคโนโลยีการศึกษา แทน โดยให้หมายถึงนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารเป็นองค์ประกอบหลักที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ทางการศึกษา ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในการศึกษาปัจจุบัน<br /><br />1.3 ความหมายของระบบสารสนเทศ<br />ระบบที่จะนำมาใช้ในการบริหารงานในที่นี้ ได้แก่ ระบบสารสนเทศ (Information System) ซึ่ง อนันต์ เกิดดำ (2548) ได้ให้ความหมายไว้ดังนี้<br />ระบบสารสนเทศ คือ เซ็ตขององค์ประกอบที่สัมพันธ์กันซึ่งรวบรวม ประมวล จัดเก็บและเผยเพร่สารสนเทศเพื่อสนับสนุนและการตัดสินใจและการควบคุมในองค์กร<br /><br />1.4 ประเภทของระบบสารสนเทศที่ใช้ในองค์กร<br />ปัจจุบัน ระบบสารสนเทศเป็นที่นิยมใช้ในองค์กรทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ระบบสารสนเทศที่ใช้กันอยู่ในองค์กรทั่วๆไปจำแนกได้ ดังนี้<br />1.4.1 ระบบประมวลผลรายการ (Transaction Processing System: TPS)<br />ระบบประมวลผลรายการเป็นพื้นฐานของระบบธุรกิจ ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยผู้บริหารในระดับปฏิบัติการระบบจะใช้คอมพิวเตอร์ในการบันทึกรายกระประจำวันในการทำธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ระบบการสั่งซื้อ ระบบการจองห้องพัก ระบบเงินเดือนและค่าจ้าง ระบบรับและส่งสินค้าออก<br />เนื่องจากการบริหารในระดับปฏิบัติการ งานกฎเกณฑ์และเงื่อนไขได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแน่นอนแล้ว ดังนั้นการตัดสินใจจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้แล้วเท่านั้นตัวอย่างเช่นการตัดสินใจจะให้เครดิตแก่ลูกค้าของธนาคาร สิ่งที่ผู้บริหารในระดับนี้จะตัดสินใจว่าจะให้หรือไม่ เขาจะทำได้เพียงแต่ตรวจว่าลูกค้ามีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้หรือไม่เท่านั้น<br />1.4.2 ระบบสารสนเทศเพื่องานบริหาร (Management Information System: MIS)<br />ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารหรือที่นิยมเรียกกันทั่วไปว่า ระบบ MIS คือระบบที่ผลิตสารสนเทศที่ผู้บริหารต้องการใช้ในการบริหารงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพระบบจะผลิตรายงานเพื่อผู้บริหาร บางกรณีผู้บริหารอาจจะเรียกใช้ด้วยระบบออนไลน์ โดยทั่วไปแล้วระบบ MIS จะเป็นข้อมูลภายในองค์กร ไม่เกี่ยวกับข้อมูลภายนอกหรือข้อมูลสภาพแวดล้อม ในเบื้องต้น MIS จะผลิตสารสนเทศเพื่อผู้บริหาร โดยเฉพาะในด้านการวางแผน การควบคุม และการตัดสินใจ<br />1.4.3 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decistion Support System: DSS)<br />ระบบสนับสนุนการตัดสินใจส่วนมากเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการตัดสินใจของผู้บริหารเป็นไปได้อย่างสะดวก ระบบจะสามารถสรุปหรือเปรียบเทียบข้อมูลจากทุกแหล่งไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภายในหรือภายนอกองค์กร แหล่งข้อมูลภายใน ได้แก่ ข้อมูลในแฟ้มองค์กรที่มีอยู่แล้ว เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการขาย ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิต ข้อมูลทางด้านการเงิน ข้อมูลจากแหล่งภายนอก ได้แก่ ข้อมูลด้านอัตราดอกเบี้ย ข้อมูลแนวโน้มของประชากร หรือข้อมูลด้านความต้องการของตลาดโลก ระบบการตัดสินใจส่วนมากเป็นระบบที่มีการตอบโต้ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ และจะมีความสามารถในการวิเคราะห์ค่าทางสถิติ มีตารางการทำงาน มีกราฟแบบต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้ประเมินข้อมูลในการติดสินใจในระบบการสนับสนุนการตัดสินใจที่จะก้าวหน้ามาก ผู้ใช้อาจจะสร้างแบบจำลองของปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการติดสินใจ ลักษณะของระบบสนับสนุนการตัดสินใจได้ดีอาจสรุปได้ ดังนี้<br />1. ระบบจะต้องใช้ช่วยผู้บริหารในกระบวนการตัดสินใจ<br />2. ระบบจะต้องสนับสนุนการตัดสินใจได้ทุกระดับ แต่จะเน้นที่ระดับวางแผนบริหารและวางแผนกลยุทธ์<br />3. ระบบมีความสามารถในการจำลองสถานการณ์ และมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์สำหรับช่วยเหลือผู้ตัดสินใจ<br />4. ระบบต้องสามารถติดต่อกับฐานข้อมุลในองค์กรได้<br />5. ระบบจะต้องเป็นระบบที่ตอบโต้กับผู้ใช้ได้ สามารถใช้งานได้ง่าย ผู้ใช้สามารถใช้งานได้โดยพึ่งความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญน้อยที่สุด<br />1.4.4 ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูง (Executive Support System: ESS)<br />ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหารระดับสูงเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้บริหารระดับสูงติดตามผลของการปฏิบัติงานขององค์การ ติดตามกิจกรรมของคู่แข่ง ชี้ให้เห็นปัญหา มองหาโอกาส และคาดคะเนแนวโน้มต่างๆ ในอนาคต ในการนำ ESS มาใช้นั้น จะต้องออกแบบให้ระบบใช้ทั้งข้อมุลภายในและภายนอกองค์กร นอกจากนี้ยังรวมเอาเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการจำลองการวิเคราะห์ ตัวอย่างเช่น LOTUS1-2-3, EXCEL หรือโปรแกรมตารางการทำงานอื่นๆ<br />1.4.5 ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System)<br />ระบบผู้เชี่ยวชาญมีส่วนคล้ายระบบอื่นๆ คือเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ช่วยบริหารแก้ไขปัญหาหรือการตัดสินใจได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ระบบผู้เชี่ยวชาญจะแตกต่างกับระบบอื่นอยู่มาก เนื่องจากระบบผู้เชี่ยวชาญจะเกี่ยวข้องกับ การจัดการความรู้ (Knowledge management) มากกว่าสารสนเทศ และถูกออกแบบมาให้ช่วยในการติดสินใจโดยใช้วิธีเดียวกับผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมนุษย์โดยใช้หลักการทำงานด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence)<br />ระบบผู้เชี่ยวชาญจะทำการโต้ตอบกับมนุษย์โดยมีการถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความกระจ่าง ให้ข้อแนะนำ และช่วยเหลือในกระบวนการติดสินใจ นั่นคือ การทำงานคล้ายกับเป็นมนุษย์ผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหานั้นๆ เนื่องจากระบบนี้ก็คือการจำลองความรุ้ของผู้เชี่ยวชาญจริงๆ มานั่นเอง โดยผู้เชี่ยวชาญในที่นี้อาจเป็นได้ทั้งผู้เชี่ยวชาญในการบริหาร ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องภาษี ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องยา หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในการทำอาหารก็ตาม</span>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-35484472813996696522008-09-30T17:58:00.003+07:002008-10-01T20:00:52.554+07:00ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ<span style="color:#3366ff;">ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่เราได้ทราบถึงการใช้ภาษาในการพูดและการเขียนและหลักในการใช้คำในการอ่านและการพูด ทำให้สามารถเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น<br />๑. ทักษะการใช้ภาษา<br />๒. ลักษณะการใช้ภาษาในการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ<br />๓. การอ่าน และการฟัง</span>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-52021162959905878122008-09-30T17:58:00.001+07:002008-10-01T20:01:09.616+07:00ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์<span style="color:#3366ff;">เป็นวิชาที่ได้รับการเรียนรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีสารสนเทศและการใช้ Gmail และการสมัครบล็อกสามารถสร้างบล็อกเป็นของตนเองได้ และยังได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ เกียวกับคอมพิวเตอร์ และยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้</span>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-660813538455645972.post-7409705149948836532008-09-29T16:56:00.000+07:002008-09-29T17:39:38.877+07:00ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชาภาษาและเทคโนโลยี<span style="color:#ff6600;">ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชาภาษาไทย<br /></span><span style="color:#3366ff;">ศึกษาและฝึกทักษะการใช้ภาษาไทยเพื่อให้ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งพัฒนาให้มีความรอบรู้มีโลกทัศน์กว้างไกล ตลอดจนให้ตระหนักในคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม และ ทักษะต่างๆในการใช้ภาษา เช่นดังนี้<br /></span><span style="color:#3366ff;">๑. ทักษะการใช้ภาษา<br />๑.๑ การฟัง และการอ่าน (รับสาร) </span><br /><span style="color:#3366ff;">๑.๒ การพูด และการเขียน (ส่งสาร)</span><br /><span style="color:#3366ff;">๒. ลักษณะการใช้ภาษาในการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ<br />๒.๑ ใช้ถ้อยคำตรงความหมาย ชัดเจน </span><br /><span style="color:#3366ff;">๒.๒ ใช้ข้อความเป็นประโยค (ความสมบูรณ์) ตรงตามโครงสร้าง </span><br /><span style="color:#3366ff;">๒.๓ ลำดับข้อความชัดเจน </span><br /><span style="color:#3366ff;">๒.๔ ใช้ภาษาเหมาะสมกับรูปแบบการสื่อสาร</span><br /><span style="color:#3366ff;">๓. การอ่าน และการฟัง </span><br /><span style="color:#3366ff;">๓.๑ จุดมุ่งหมายในการอ่านและการฟัง </span><br /><span style="color:#3366ff;">๓.๑.๑ เพื่อความบันเทิง </span><br /><span style="color:#3366ff;">๓.๑.๒ เพื่อความรอบรู้ </span><br /><span style="color:#3366ff;">๓.๑.๓ เพื่อความรู้ </span><br /><span style="color:#3366ff;">๓.๒ การจับประเด็นสำคัญ </span><br /><span style="color:#3366ff;">๓.๓ การตีความ<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi1H-ZogM5RLYWk8kJ0w_L99rMzUFjOMm-oywo_ucheNzvyP4_qJo2ZFluTEOWtdik82MyswNO-9J9eqSoAtClRsL2D5NU4V5X0JGZFdVtQC9W7Xg56JH4c9_s-a40a7zCjSCuZof8spg0N/s1600-h/003.jpg"></a></span>Moonnene......จ้าhttp://www.blogger.com/profile/01006138819046274113noreply@blogger.com0